New Meta: Offlane Abaddon

หลายๆคนที่ติดตามการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ที่ผ่านมา คงได้เห็นเหล่าโปรหยิบจับตัวนี้มาให้ได้เห็นกันบ้างแล้ว ซึ่งก็ทำได้ดีในเกมนั้นๆ โดยจากสถิติในการแข่งขันรอบตัดเชือกในรายการ DAC ผลอยู่ที่ชนะ 6 เกมจาก 9 เกมเลยทีเดียว ด้วยความที่มันมีสกิล Aphotic Shield สร้างโล่ป้องกันที่ดูดซับความเสียหายจำนวนหนึ่ง เมื่อโล่ถูกทำลาย มันจะระเบิดและสร้างความเสียหายบริเวณโดยรอบเท่ากับความเสียหายที่มันสามารถดูดซับเอาไว้ได้ ชำระล้างบัฟด้านลบและอาการสตันบางชนิดให้กับยูนิตที่ถูกร่ายใส่ ชนิดการลบล้าง: การลบล้างขั้นสูง สำหรับใครที่ยังอยากเรียนรู้การอัพสกิล การออกของ แนวทางการเล่นขั้นพื้นฐานสามารถเข้าไปอ่านบทความฮีโร่ Abaddon ได้ที่นี่

ยุค 7.XX

ความสามารถพิเศษทำให้ฮีโร่ Abaddon โดดเด่นในแพทช์นี้คือเมื่อมันถึง Level 25 แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่เลือกที่จะอัพ Talent +300 Aphotic Shield Health ด้วยความที่สามารถดูดซับ Damage ได้ถึง 500 และสกิล Cooldown เพียง 6 วินาทีเป็นอะไรที่เรียกได้ว่าโกงมากๆ และเนื่องจากว่า Talent Level 10 นั้นเราสามารถเลือก +20% XP Gain เพื่อให้ได้รับ EXP มากขึ้นและ Level 20 ยังมี Talent ลดคูลดาวน์ของสกิลอีก 12% อีก ทำให้ตัวนี้จะมี Level ที่เร็วมากและเมื่ออัพ Talent ครบแล้ว สกิล Aphotic Shield จะมีคูลดาวน์เหลือแค่เพียง 5.1 วินาที นอกจากนี้ยังสามารถออกไอเท็มช่วยลดคูลดาวน์อย่าง Octarine Core ทำให้คูลดาวน์เหลือแค่ 3.8 วินาทีเท่านั้นเอง ซึ่งมากพอที่จะทำให้จังหวะ Fight หนึ่งเปลี่ยนเลยทีเดียว ด้วยความสามารถดังกล่าวนั้น นำไปสู่การผลักดันฮีโร่ตัวนี้ให้เป็นสุดยอดตำแหน่งออฟเลนอีกตัวหนึ่งที่น่าจะตามอง

แนวทางการเล่น

เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า Abaddon นั้นเก่งเอามากๆใน Level 25 ซึ่งจะมีคูลดาวน์และการเพิ่มค่าดูดซับความเสียหายจากสกิล Aphotic Shied มากขึ้น คำถามคือ จะทำยังไงให้ตัวมันไปถึง Level 25 ได้ไวที่สุด? คำตอบคือง่ายๆและอย่างที่เรารู้กันอยู่คือ: Hand of Midas นั้นเอง ไอเท็มชิ้นนี้ถูกใช้ในเกือบทุกเกมกับ Abaddon ในรายการ DAC ด้วยเหตุผลที่มันต้องการไปถึง Level 25 ให้ไวที่สุด หากมี Hand of Midas ที่ให้ความสามารถ 1.75 เท่า XP + 220 Gold บวกกับ Talent +20% XP แล้วล่ะก็มันจะได้ทั้ง Level และเงินที่ไวมากเลยทีเดียว การเลือกออกชิ้นนี้จึงเป็นทางเลือกที่ดีเอามากๆสำหรับฮีโร่ตัวนี้ นอกจากนี้ Midas Cooldown จะได้รับผลกระทบจากการลด Cooldown Reduction ในเลเวลที่ 20 ด้วย ทำให้เงินไวมาก ความเก่งของฮีโร่ตัวนี้ทำให้จังหวะ Teamfight หลายจังหวะของเขาได้เปรียบมากขึ้นจากสกิล Aphotic Shied และ Curse of Avernus ข้อดีของการเล่น Abaddon คือสามารถเป็นได้ทั้งแบ็คอัพและตัวรับ Damage ที่ดีได้ เนื่องจากตัวเองมีสกิล Ultimate อย่าง Borrowed Time ที่สามารถรับ Damage ได้อย่างมหาศาลในระยะเวลาที่สกิลทำงาน ทำให้มันเป็นตัว Tank รับดาเมทได้เป็นอย่างดี (สกิล Borrowed Time เป็น Passive ที่สามารถใช้เองอัตโนมัติเมื่อ Hp ต่ำกว่ากำหนด ดังนั้นหากโดน Silver Edge สกิลจะไม่ทำงาน ต้องกดเองให้ทันก่อนตายนะครับ :D)

การเล่น Abaddon ในตำแหน่งออฟเลนแบ่งออกเป็นสองรูปแบบใหญ่ๆซึ่งเราต้อง Builds ไอเท็มและรูปแบบการเล่นให้ตรงกับรูปแบบแผนของทีมให้ได้มากที่สุด ในการแข่งขันระดับมืออาชีพของ DAC มีการออกไอเท็มทั้งสองรูปแบบนั้นจะแตกต่างกันพอสมควร แต่ไอเท็มที่ทั้งสองรูปแบบมุ่งเน้นที่จะออกเป็นอันดับแรกก็คือ Hand of Midas ก็อย่างที่บอกว่าฮีโร่ตัวนี้ต้องการเลเวลเป็นอย่างมากจากนั้นก็ไป Radiance แม้ว่าอาจดูเหมือนจะเน้นไปที่การสร้าง DPS Build แต่ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว Radiance ใช้เป็นเครื่องมือในการดัน (Split-Pushing) บางครั้งก็มีการออกไอเท็มอย่าง Aghanim’s Scepter และ Octarine Core ตามมาสำหรับสไตล์การเล่นแบบดันบ้าน ไอเท็มทางเลือกอื่นๆได้แก่ Vladmir’s Offering, Force Staff, Lotus Orb เป็นต้น นอกจากนี้ในบางครั้ง Abaddon ก็ไม่จำเป็นต้องออก Radiance เสมอไป ถ้าหากเพื่อนร่วมทีของเรามีไอเท็มนี้อยู่แล้วอย่างเช่น Alchemist, Naga หรือ Spectre ให้เราเน้นไปออกไอเท็มอื่นๆแทนดีกว่าเพราะผลของ Radiance นั้นจะไม่ทับซ้อนกัน ทำให้เมื่ออยู่ใน Teamfight เราเลือกไปออกไอเท็มอย่างอื่นอย่าง Assault Cuirass หรือ Solar Crest จะดีกว่า ที่มา: Dotabuff.com