Dota 2 เป็นเกม MOBA ที่มีความซับซ้อนและหลากหลาย แต่ก็เป็นเกมที่สนุกและคุ้มค่าที่จะเรียนรู้ สำหรับผู้เล่นมือใหม่ การเลือกฮีโร่ที่เหมาะสมจะช่วยให้เข้าใจพื้นฐานของเกมและพัฒนาทักษะได้อย่างรวดเร็ว ในบทความนี้ เราจะแนะนำ 5 ฮีโร่ Dota 2 สำหรับมือใหม่ พร้อมเหตุผลและคำแนะนำในการเล่นอย่างละเอียด เพื่อให้คุณสามารถก้าวเข้าสู่โลกของ Dota 2 ได้อย่างมั่นใจ
1. Crystal Maiden – ราชินีน้ำแข็งผู้ทรงพลัง
Crystal Maiden หรือที่รู้จักกันในชื่อ CM เป็นฮีโร่สายสนับสนุน (Support) ที่มีสกิลใช้งานง่ายและทรงพลัง เธอสามารถช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีมได้หลากหลายวิธี เช่น การฟื้นฟูมานา การสโลว์ศัตรู และการสร้างพื้นที่ในการต่อสู้
เหตุผลที่แนะนำ:
- สกิลใช้งานง่าย: สกิลของ CM ส่วนใหญ่เป็นสกิลแบบกดใช้งาน (Active) ที่ไม่ต้องใช้ความแม่นยำในการเล็ง ทำให้ผู้เล่นมือใหม่สามารถใช้งานได้ง่าย เช่น สกิล Crystal Nova ที่สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง หรือ Frostbite ที่ทำให้ศัตรูเคลื่อนที่ช้าลง
- มีประโยชน์ต่อทีม: CM มีสกิลที่ช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีมได้หลากหลายรูปแบบ เช่น Arcane Aura ที่ช่วยฟื้นฟูมานาให้กับเพื่อนร่วมทีมอย่างต่อเนื่อง ทำให้เพื่อนร่วมทีมสามารถใช้สกิลได้บ่อยขึ้น หรือ Freezing Field ที่สร้างพื้นที่ควบคุมขนาดใหญ่ ทำให้ศัตรูติดสถานะ Frozen และได้รับความเสียหาย
- แข็งแกร่งในช่วงต้นเกม: CM มีสกิลที่สามารถสร้างความได้เปรียบในช่วงต้นเกม เช่น Crystal Nova ที่สามารถใช้ในการฮาราสศัตรูในเลน หรือ Frostbite ที่สามารถใช้ในการหยุดศัตรูที่กำลังหนี ทำให้ทีมสามารถควบคุมเกมได้ง่ายขึ้น
คำแนะนำในการเล่น:
- เน้นการใช้สกิล Crystal Nova และ Frostbite: สกิลเหล่านี้เป็นสกิลหลักของ CM ที่ใช้ในการสร้างความเสียหายและควบคุมศัตรู ควรใช้สกิลเหล่านี้ให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
- ใช้สกิล Arcane Aura เพื่อฟื้นฟูมานาให้กับเพื่อนร่วมทีม: สกิลนี้เป็นสกิลติดตัวของ CM ที่จะฟื้นฟูมานาให้กับเพื่อนร่วมทีมที่อยู่ใกล้เคียง ควรอยู่ใกล้กับเพื่อนร่วมทีมเพื่อให้สกิลนี้มีประสิทธิภาพสูงสุด
- ในช่วงท้ายเกม ใช้สกิล Freezing Field เพื่อสร้างพื้นที่ในการต่อสู้และทำลายล้างศัตรู: สกิลนี้เป็นสกิลอัลติเมทของ CM ที่มีพลังทำลายล้างสูง ควรใช้สกิลนี้ในจังหวะที่เหมาะสมเพื่อสร้างความได้เปรียบในการต่อสู้
2. Juggernaut – นักดาบไร้เทียมทาน
Juggernaut หรือที่รู้จักกันในชื่อ Jugg เป็นฮีโร่สายแครี่ (Carry) ที่มีความสามารถในการสร้างความเสียหายกายภาพอย่างรุนแรง เขาสามารถจัดการกับศัตรูได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ด้วยสกิลที่ใช้งานง่ายและความสามารถในการฟาร์มไอเทมได้รวดเร็ว ทำให้ Juggernaut เป็นฮีโร่ Dota 2 สำหรับมือใหม่ ที่ต้องการศึกษาการเล่นแครี่อีกตัวที่น่าสนใจ
เหตุผลที่แนะนำ:
- สกิลใช้งานง่าย: สกิลของ Jugg ส่วนใหญ่เป็นสกิลแบบกดใช้งาน (Active) ที่ไม่ต้องใช้ความแม่นยำในการเล็ง ทำให้ผู้เล่นมือใหม่สามารถใช้งานได้ง่าย เช่น Blade Fury ที่ทำให้ Juggernaut หมุนตัวฟัน สร้างความเสียหายแก่ศัตรูรอบตัว หรือ Healing Ward ที่สร้างวาร์ดฟื้นฟูพลังชีวิตให้กับตัวเองและเพื่อนร่วมทีม
- สร้างความเสียหายได้สูง: Jugg มีสกิลที่สามารถสร้างความเสียหายได้อย่างรุนแรง เช่น Blade Dance ที่เพิ่มโอกาสในการโจมตีติดคริติคอล หรือ Omnislash ที่เป็นสกิลอัลติเมทที่ทำให้ Juggernaut กระโดดฟันศัตรูหลายครั้ง สร้างความเสียหายมหาศาล
- คล่องตัวสูง: Jugg มีสกิลที่ช่วยให้เขาเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว เช่น Blade Fury ที่ทำให้ Juggernaut ไม่สามารถถูกโจมตีได้ในขณะที่ใช้สกิล หรือ Omnislash ที่ทำให้ Juggernaut กระโดดไปมาได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เขายากที่จะถูกจับและสามารถเข้าถึงศัตรูได้ง่าย
คำแนะนำในการเล่น:
- เน้นการใช้สกิล Blade Fury เพื่อสร้างความเสียหายและป้องกันตัวเองจากการโจมตี: สกิลนี้เป็นสกิลหลักของ Jugg ที่ใช้ในการสร้างความเสียหายและป้องกันตัวเอง ควรใช้สกิลนี้ให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
- ใช้สกิล Healing Ward เพื่อฟื้นฟูพลังชีวิตให้กับตัวเองและเพื่อนร่วมทีม: สกิลนี้เป็นสกิลที่สำคัญของ Jugg ที่ใช้ในการรักษาตัวเองและเพื่อนร่วมทีม ควรวาง Healing Ward ในตำแหน่งที่เหมาะสมเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
- ในช่วงท้ายเกม ใช้สกิล Omnislash เพื่อทำลายล้างศัตรู: สกิลนี้เป็นสกิลอัลติเมทของ Jugg ที่มีพลังทำลายล้างสูง ควรใช้สกิลนี้ในจังหวะที่เหมาะสมเพื่อกำจัดศัตรูที่สำคัญ
3. Sniper – มือปืนจอมสังหาร
Sniper เป็นฮีโร่สายแครี่ (Carry) ที่มีระยะโจมตีไกลที่สุดในเกม (ไม่นับ Facet จากฮีโร่) เขาสามารถสร้างความเสียหายกายภาพได้อย่างต่อเนื่องจากระยะไกล ทำให้เขายากที่จะถูกเข้าถึงและสามารถจัดการกับศัตรูได้อย่างปลอดภัย ด้วยสกิลที่ใช้งานง่ายและความสามารถในการสร้างความเสียหายสูง
เหตุผลที่แนะนำ:
- ระยะโจมตีไกล: Sniper มีระยะโจมตีไกลที่สุดในเกม ทำให้เขาสามารถโจมตีศัตรูได้จากระยะไกลโดยไม่ต้องเสี่ยงเข้าใกล้ ทำให้เขายากที่จะถูกเข้าถึงและสามารถสร้างความเสียหายได้อย่างปลอดภัย
- สกิลใช้งานง่าย: สกิลของ Sniper ส่วนใหญ่เป็นสกิลแบบกดใช้งาน (Active) ที่ไม่ต้องใช้ความแม่นยำในการเล็ง ทำให้ผู้เล่นมือใหม่สามารถใช้งานได้ง่าย เช่น Shrapnel ที่สร้างความเสียหายและสโลว์ศัตรูในพื้นที่ หรือ Headshot ที่เป็นสกิลติดตัวที่เพิ่มความเสียหายในการโจมตีแต่ละครั้ง
- สร้างความเสียหายได้สูง: Sniper มีสกิลที่สามารถสร้างความเสียหายได้อย่างรุนแรง เช่น Assassinate ที่เป็นสกิลอัลติเมทที่สร้างความเสียหายมหาศาลแก่ศัตรูเป้าหมาย หรือ Take Aim ที่เพิ่มระยะโจมตีและความเสียหายในการโจมตี
คำแนะนำในการเล่น:
- รักษาระยะห่างจากศัตรู: Sniper เป็นฮีโร่ที่อ่อนแอในระยะประชิด ควรรักษาระยะห่างจากศัตรูและใช้ประโยชน์จากระยะโจมตีที่ไกลของเขาในการสร้างความเสียหาย
- ใช้สกิล Shrapnel เพื่อสร้างความเสียหายและสโลว์ศัตรู: สกิลนี้เป็นสกิลหลักของ Sniper ที่ใช้ในการสร้างความเสียหายและควบคุมศัตรู ควรใช้สกิลนี้ให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
- ในช่วงท้ายเกม ใช้สกิล Assassinate เพื่อกำจัดศัตรูที่สำคัญ: สกิลนี้เป็นสกิลอัลติเมทของ Sniper ที่มีพลังทำลายล้างสูง ควรใช้สกิลนี้ในจังหวะที่เหมาะสมเพื่อกำจัดศัตรูที่สำคัญ
4. Wraith King – ราชาแห่งความตาย
Wraith King หรือที่รู้จักกันในชื่อ WK เป็นฮีโร่สายแครี่ (Carry) ที่มีความทนทานสูงและสามารถสร้างความเสียหายกายภาพได้อย่างรุนแรง เขาสามารถฟื้นคืนชีพได้หนึ่งครั้งเมื่อตาย ทำให้เขายากที่จะถูกฆ่าและสามารถต่อสู้ได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยสกิลที่ใช้งานง่ายและความสามารถในการเอาตัวรอดสูง
เหตุผลที่แนะนำ:
- ความทนทานสูง: Wraith King มีพลังชีวิตและเกราะที่สูง ทำให้เขาทนทานต่อการโจมตีของศัตรูได้ดี นอกจากนี้ สกิล Vampiric Aura ของเขายังช่วยฟื้นฟูพลังชีวิตให้กับตัวเองและเพื่อนร่วมทีมที่อยู่ใกล้เคียง ทำให้เขายิ่งทนทานมากขึ้นไปอีก
- ฟื้นคืนชีพได้: สกิล Reincarnation ของ Wraith King ทำให้เขาสามารถฟื้นคืนชีพได้หนึ่งครั้งเมื่อตาย ทำให้เขายากที่จะถูกฆ่าและสามารถกลับมาต่อสู้ได้อีกครั้ง
- สกิลใช้งานง่าย: สกิลของ Wraith King ส่วนใหญ่เป็นสกิลแบบกดใช้งาน (Active) ที่ไม่ต้องใช้ความแม่นยำในการเล็ง ทำให้ผู้เล่นมือใหม่สามารถใช้งานได้ง่าย เช่น Wraithfire Blast ที่สร้างความเสียหายและสตันศัตรู หรือ Mortal Strike ที่เพิ่มความเสียหายในการโจมตีแต่ละครั้ง
คำแนะนำในการเล่น:
- เข้าปะทะอย่างกล้าหาญ: Wraith King เป็นฮีโร่ที่แข็งแกร่งและทนทาน ควรใช้ประโยชน์จากความทนทานของเขาในการเข้าปะทะกับศัตรูอย่างกล้าหาญ
- ใช้สกิล Wraithfire Blast เพื่อสร้างความเสียหายและสตันศัตรู: สกิลนี้เป็นสกิลหลักของ Wraith King ที่ใช้ในการสร้างความเสียหายและควบคุมศัตรู ควรใช้สกิลนี้ให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
- ใช้สกิล Reincarnation ให้เกิดประโยชน์สูงสุด: สกิลนี้เป็นสกิลที่สำคัญของ Wraith King ที่ทำให้เขาสามารถฟื้นคืนชีพได้ ควรใช้สกิลนี้อย่างชาญฉลาดเพื่อสร้างความได้เปรียบในการต่อสู้
5. Ogre Magi – นักเวทย์สองหัวจอมป่วน
Ogre Magi เป็นฮีโร่สายสนับสนุน (Support) ที่มีความสามารถในการสร้างความเสียหายเวทย์และควบคุมศัตรู เขาสามารถร่ายสกิลได้หลายครั้งติดต่อกันด้วยสกิล Multicast ทำให้เขาสามารถสร้างความปั่นป่วนในการต่อสู้ได้อย่างมาก ด้วยสกิลที่ใช้งานง่ายและความสามารถในการสร้างความสนุกสนานในการเล่น ทำให้ Ogre Magi เหมาะจะเป็นฮีโร่ Dota 2 สำหรับมือใหม่ ที่ต้องการเรียนรู้การเล่นตำแหน่งซัพพอร์ต
เหตุผลที่แนะนำ:
- สกิลใช้งานง่าย: สกิลของ Ogre Magi ส่วนใหญ่เป็นสกิลแบบกดใช้งาน (Active) ที่ไม่ต้องใช้ความแม่นยำในการเล็ง ทำให้ผู้เล่นมือใหม่สามารถใช้งานได้ง่าย เช่น Fireblast ที่สร้างความเสียหายเวทย์ หรือ Ignite ที่สร้างความเสียหายเวทย์เป็นระยะเวลาหนึ่ง
- Multicast: สกิลติดตัวของ Ogre Magi ที่ทำให้เขามีโอกาสในการร่ายสกิลซ้ำหลายครั้ง ทำให้เขาสามารถสร้างความเสียหายและควบคุมศัตรูได้อย่างต่อเนื่อง
- ความสนุกสนานในการเล่น: Ogre Magi เป็นฮีโร่ที่มีสกิลที่สร้างความสนุกสนานในการเล่น เช่น Unrefined Fireblast ที่เป็นสกิล Fireblast แบบสุ่ม ที่อาจจะสร้างความเสียหายได้มากหรือน้อย หรือ Multicast ที่ทำให้เขาสามารถร่ายสกิลได้หลายครั้ง ทำให้การเล่น Ogre Magi เป็นประสบการณ์ที่สนุกสนาน
คำแนะนำในการเล่น:
- ใช้สกิล Fireblast และ Ignite ให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้: สกิลเหล่านี้เป็นสกิลหลักของ Ogre Magi ที่ใช้ในการสร้างความเสียหาย ควรใช้สกิลเหล่านี้ให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ Multicast ทำงาน
- ใช้สกิล Bloodlust เพื่อเพิ่มความเร็วในการโจมตีและความเร็วในการเคลื่อนที่ให้กับเพื่อนร่วมทีม: สกิลนี้เป็นสกิลที่สำคัญของ Ogre Magi ที่ใช้ในการช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีม ควรใช้สกิลนี้ในจังหวะที่เหมาะสมเพื่อสร้างความได้เปรียบในการต่อสู้
- เรียนรู้การใช้ Multicast ให้เกิดประโยชน์สูงสุด: สกิลนี้เป็นสกิลที่สำคัญของ Ogre Magi ที่ทำให้เขาสามารถร่ายสกิลได้หลายครั้ง ควรเรียนรู้การใช้ Multicast ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น การใช้ Fireblast หลายครั้งเพื่อสร้างความเสียหายอย่างรุนแรง หรือการใช้ Ignite หลายครั้งเพื่อสร้างความเสียหายเป็นระยะเวลาหนึ่ง
สรุปบทความ 5 ฮีโร่ Dota 2 สำหรับมือใหม่
Dota 2 เป็นเกมที่มีความซับซ้อน มีระบบ MMR Dota2 Ranking เป็นเกมที่สนุกและคุ้มค่าที่จะเรียนรู้ การเลือกฮีโร่ที่เหมาะสมจะช่วยให้ผู้เล่นมือใหม่สามารถเข้าใจพื้นฐานของเกมและพัฒนาทักษะได้อย่างรวดเร็ว หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณสามารถเลือกฮีโร่ที่เหมาะสมกับตัวเองและเริ่มต้นการเดินทางในโลกของ Dota 2 ได้อย่างมั่นใจ
ไม่ว่าคุณจะชอบเล่นเป็นสายสนับสนุน คอยช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีม หรือสายแครี่ ที่สามารถสร้างความเสียหายได้อย่างรุนแรง บทความนี้ได้นำเสนอฮีโร่ Dota 2 สำหรับมือใหม่ ที่หลากหลายและเหมาะสมกับสไตล์การเล่นที่แตกต่างกัน ลองเลือกฮีโร่ที่คุณสนใจ ฝึกฝน และพัฒนาทักษะเพื่อก้าวสู่ความเป็นโปรใน Dota 2 ได้เลย!